ประวัติของโดเรม่อน

Posted: กันยายน 10, 2011 in Uncategorized
Doraemon : โดเรม่อน
 
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2512 เป็นวันที่เริ่มต้นพิมพ์หนังสือการ์ตูนเรื่อง “Doraemon” ในประเทศญี่ปุ่น โดยจินตนาการของนักเขียนชาวญี่ปุ่นสองคน ที่ใช้นามปากการ่วมกัน ว่า ฟูจิโกะ ฟุจิโอะ โดยตัวการ์ตูนจะเป็นเรื่องราวของหุ่นยนต์ในโลกอนาคต ศตวรรษที่ 22 ซึ่งจินตนาการให้เป็นแมวตัวกลมๆ มีความสามารถพิเศษ และกระเป๋าวิเศษที่บรรจุของมากมาย จุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือเด็กผู้ชาย ที่ขี้แย ไม่เอาไหน คนนึง และสอดแทรกคติธรรมเข้าไป ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก

ชื่อโดราเอมอน มาจากคำว่า…โดราเนโกะ แปลว่าแมวหลงทาง เอมอน เป็นคำเรียกต่อท้ายชื่อของเด็กชายในสมัยก่อน โดราเอมอน เกิดขึ้นโดยความบังเอิญในขณะที่ 2 นักเขียนการ์ตูนชื่อฮิโรชิ ฟูจิโมโต และโมโตโอะ อาบิโกะขณะที่กำลังจินตนาการ สร้างการ์ตูนตัวใหม่ด้วยความลำบาก และกดดัน เนื่องจากเหลือเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงจะถึงกำหนดส่งต้นฉบับ บังเอิญเหลือบเห็นตุ๊กตาของลูกสาว ทำให้นึกต่อไปถึงตุ๊กตา แมว ล้มลุก และกลายเป็นโดราเอมอนในที่สุด

การ์ตูนเรื่องโดเรม่อน มีจุดเด่นในเรื่องของจินตนาการ สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ในโลกอนาคต ที่ผู้อ่านทั่วไปคาดไม่ถึง จากปลายปากกาของ อ. ทั้งสอง ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งสอดแทรกศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเข้าไปในตัวการ์ตูน แบ่งลักษณะนิสัยของคนออกมาในแต่คาแร็คเตอร์ได้อย่างลงตัว เหมือนกับนำเอาชีวิตจริงของผู้อ่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับการ์ตูนด้วย ดังนั้นการ์ตูนเรื่องนี้จึงเป็นที่นิยม อ่านได้ทุกเพศทุกวัย จนทำให้มีการพิมพ์การ์ตูนเรื่องนี้มากมาย สามารถขายได้ถึง 100 ล้านเล่มใน ญี่ปุ่น และแปลเป็นภาษาต่างๆ ทั่วโลก ถึง 9 ภาษา รวมทั้งภาษาไทยอีกด้วย นอกจากการ์ตูนแล้ว โดเรม่อน ถูกสร้างออกมาเป็นภาพยนต์ทางจอเงิน และจอแก้วมากมายหลายตอน โดย ฉายครั้งแรกที่ฮ่องกง เมื่อปี พ.ศ. 2524 และฉายที่ประเทศไทยเราครั้งแรก วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2525

ประวัติ และวิวัฒนาการ ตัวละครเจราเมีย “เจอร์รี่” เมาส์ หนูสมองใส ซึ่งต้องการความช่วยเหลือของคนอื่นๆ มีนิสัยซุกซน ชอบทานชีส มีมนุษยสัมพันธ์ดี และชอบผูกมิตรกับคนแปลกหน้า เอาตัวรอดเก่ง มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น เป็นคู่แค้นกับทอม แต่บางครั้งก็เป็นเพื่อนกับทอม มีขนสีน้ำตาล ตาสีดำ เดิมเป็นหนูนิรนามแต่แอนนิเมเตอร์ตั้งชื่อว่า “จิงช์” แต่ตั้งแต่ตอนที่ 2 เป็นต้นไปได้เปลี่ยนชื่อเป็น เจอร์รี่ เมาส์ โทมัส “ทอม” แคท แมวร้าย ที่เป็นศัตรูของเจอร์รี่และคอยล่าเจอร์รี่อยู่บ่อยๆ และยังชอบรงแกสัตว์อื่นๆที่ตัวเล็กและอ่อนแอกว่าด้วย แต่ความจริงแล้วเป็นมีอารมณ์อ่อนไหว มีความตั้งใจจริง มีบางครั้งเท่านั้นที่จะสงบศึกและเป็นเพื่อนกับเจอร์รี่ มีความรับผิดชอบเรื่องบ้านสูง มีขนเป็นสีเทา ที่มือ,เท้า และปลายหาง เป็นสีขาว ตาจะมีสีเหลือง เดิมชื่อ “แจสเปอร์” แต่ตั้งแต่ตอนที่ 2 เป็นต้นไปได้เปลี่ยนชื่อเป็น ทอม แคท สไปค์ สุนัขพันธุ์บูลด็อก เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน นิสัยดุร้าย เป็นทั้งศัตรูและเป็นเพื่อนเล่นของ ทอมกับเจอร์รี่(ส่วนใหญ่ จะเป็นศัตรูของทอม และเป็นมิตรกับเจอร์รี่) มีลูกชื่อว่า ไทค์ ทัฟฟี่ น้องชาย(บุญธรรม)ของ เจอร์รี่(ที่เจอรี่รับมาเลี้ยง) มีนิสัยตะกละ มักจะใส่ผ้าอ้อมอยู่ตลอดเวลา และปกติ ชอบรับประทานนม เดิมชื่อ “นิบเบิลส์(Nibbles)” ดรูปปี้ สุนัขข้างบ้าน ของ ทอม และ เจอร์รี่ มีนิสัยเงียบง่าย พูดน้อย ไทค์ ลูกชายสุดรักสุดหวงของ สไปค์ ใจดีและเป็นมิตร ไม่ชอบทำร้ายใคร คุณนายเกอร์ทูธ เป็นคนที่เลี้ยง ทอม ปกติชอบทำความสะอาดบ้าน มักจะเรียกใช้ทอมให้ทำความสะอาดบ้านแทนตัวเอง และจับหนู เมื่อ คุณนายเกอร์ทูธ ไม่อยู่บ้าน อายุ 54 ปี ดริบเบิ้ล ลูกชายของดรูปปี้ที่นิสัยเหมือนพ่อเปี๊ยบ

ประวัติอุลตร้าแมน

ยอด มนุษย์อุลตร้าแมน ผู้มาจากดาว M78 ซูเปอร์ฮีโร่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ในไทย และใน ประเทศอื่นๆในเอเชีย ที่ อาจารย์เอยิ ซึบูราญ่า ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังของญี่ปุ่น ผู้สร้างภาพยนตร์ชุด ก๊อตซิลล่า ฉายทางโรงภาพยนตร์และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเมื่อสี่สิบกว่าปีมาแล้วเป็นผู้ สร้างขึ้น …

ได้ปรากฏโฉมทางโทรทัศน์เมื่อปี ค.ศ. 1966 ในภารกิจที่ตามล่าสัตว์ประหลาดจากต่างดาวมายังโลกมนุษย์ และได้เกิดอุบัติเหตุทำให้ชนกับยานของหน่วยพิทักษ์โลกที่ชื่อหน่วยวิทยะ ทำให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยพิทักษ์โลกชื่อ ฮายาตะ เสียชีวิต อุลตร้าแมนจึงได้ชุบชีวิตให้กับฮายาตะ และให้พลังอำนาจของตนแก่ฮายาตะทำให้สามารถเปลี่ยนร่างเป็นอุลตร้าแมน ในลักษณะของการรวมร่างของตน เข้ากับฮายาตะได้ เมื่อต้องปราบสัตว์ประหลาดที่มารุกรานโลก และด้วยสภาพแวดล้อมของโลกที่ต่างจากดาว M78 ทำให้ยอดมนุษย์สามารถอยู่บนโลกเพื่อปราบสัตว์ประหลาดได้ไม่เกินสามนาที

นั่น เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิบัติการของซูเปอร์ฮีโร่ทีมใหม่บนโลก เพราะหลังจากนั้น ก็จะมีอุลตร้าแมนคนใหม่ๆ ปรากฏตัวออกมาปราบสัตว์ประหลาด และมนุษย์ต่างดาวร่างยักษ์ที่มารุกรานโลกอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันเป็น เวลา 35 ปีพอดี เมื่ออุลตร้าแมนคนแรกปฏิบัติภารกิจบนโลกมนุษย์ไประยะหนึ่ง ทางผู้สร้าง อุลตร้าแมนก็จะแต่งเรื่องให้ภารกิจของเขา บนโลกหมดลง และมีอุลตร้าแมนคนใหม่ๆ ปรากฏตัวออกมาช่วยชาวโลกปราบสัตว์ประหลาดและมนุษย์ต่างดาวที่มารุกรานโลกแทน จนถึงวันนี้ มีอุลตร้าแมนปรากฏตัวขึ้นมาบนโลกแล้วกว่า 30 คน ซึ่งไม่ทุกคนที่ออกมาปฏิบัติภารกิจบนจอทีวีอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา ยาวนาน อุลตร้าแมนบางคนปรากฏตัวเฉพาะในหนังสือการ์ตูน ขณะที่อุลตร้าแมนบางคนปรากฏตัวเฉพาะในบางภารกิจ เพื่อช่วยอุลตร้าแมนที่มาปฏิบัติการบนโลกปราบสัตว์ประหลาดเท่านั้น ภาพยนตร์ทีวีชุดอุลตร้าแมน ได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ใช้คนแสดงเกือบทั้งหมด ยกเว้นบางเรื่องที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูน อย่างเช่น อุลตร้าแมนโจ ที่มีรูปดาวอยู่กลางหน้าผาก อุลตร้าแมน ซูเปอร์ฮีโร่ร่างยักษ์ของญี่ปุ่นนั้น เกิดขึ้นทีหลังซูเปอร์แมน ซูเปอร์ฮีโร่ของอเมริกัน ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกหลายสิบปี เพราะซูเปอร์แมนปรากฏตัวในหนังสือการ์ตูนอเมริกันตั้งแต่ปีค.ศ.1938 ถึงวันนี้ก็ 63 ปีแล้ว

คนทั่วโลกรวมทั้งคนไทย ก็มีความรู้จักและคุ้นเคยกับซูเปอร์แมนมาก่อนอุลตร้าแมน ทั้งโดยผ่านทางภาพยนตร์ทีวีที่นำเข้ามาฉายในไทย ภาพยนตร์ทีวีเรื่องซูเปอร์แมนนั้น ฉายในไทยก่อนอุลตร้าแมนหลายปีและโดยทางหนังสือการ์ตูนภาษาอังกฤษ และภาษาไทย แต่คนญี่ปุ่น คนไทย และคนเอเชียดูจะสนิทสนมคุ้นเคยกับอุลตร้าแมนมากกว่า ซูเปอร์แมน ทั้งนี้เพราะภาพยนตร์ทีวีชุดอุลตร้าแมนนั้นได้มีการสร้างอย่างต่อเนื่องนาน หลายปีจนถึงปัจจุบัน ก็เป็นเวลา 35 ปีแล้ว ทั้งหนังสือการ์ตูน และของเล่นต่างๆ เกี่ยวกับอุลตร้าแมนก็ถูกผลิตออกมามากมายและแพร่หลายมาก ความนิยมชมชอบในตัวอุลตร้าแมนนี้ ไม่ใช่อยู่ในกลุ่มคนเอเชียเท่านั้น ยังแพร่ไปถึงอเมริกา และออสเตรเลียด้วยเช่นกัน เพราะเคยมีการสร้างภาพยนตร์ทีวีชุดอุลตร้าแมนในออสเตรเลีย อุลตร้าแมนที่ออกปกบัติการชื่ออุลตร้าแมนเกรท และอุลตร้าแมนที่ออกปฏิบัติการในอเมริกาชื่ออุลตร้าแมนเพาเวอร์ ส่วนซูเปอร์แมนนั้น จะปรากฏกายเป็นช่วงๆแล้วก็หายไปนาน จากการฉายเรื่อง ซูเปอร์แมนทางทีวีเมื่อหลายสิบปีก่อน แล้วก็หมดชุดไป ทิ้งช่วงไปนานจนมามีการสร้างเป็นภาพยนตร์ฉายทางโรงภาพยนตร์ สร้างออกมาได้สี่ภาคแล้วก็หยุดไป และทิ้งช่วงระยะหนึ่งก็มาสร้างเป็นภาพยนตร์ชุดทางทีวีอีกครั้ง แล้วก็จบชุดไป ในส่วนหนังสือการ์ตูน และของเล่นอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ในตลาดเมืองไทยและในเอเชียนั้น ก็ไม่แพร่หลายมากเท่าอุลตร้าแมน สำหรับอุลตร้าแมนที่ออกมาปฏิบัติการหน้าจอทีวีมีมากมายหลายสิบคนดังที่กล่าว แล้ว เช่น คนแรกคืออุลตร้าแมนคนแรกที่ปรากฏขึ้นเมื่อ 35 ปีก่อน จากนั้นก็มี อุลตร้าแมนเซเว่น อุลตร้าแมนทาโร อุลตร้าแมนเลโอ อุลตร้าแมน 80 อุลตร้าแมนแจ๊ค อุลตร้าแมนเอ อุลตร้าแมนเกรท อุลตร้าแมนเพาเวอร์ด อุลตร้าแมนซีเอิร์ธ อุลตร้าแมนไทก้า อุลตร้าแมนไดน่า อุลตร้าแมนไกอา และสำหรับอุลตร้าแมนตัวล่าสุดที่ทางบริษัท ซึบูราญ่า ของญี่ปุ่นเป็น ผู้สร้างขึ้นและกำลังจะออกฉายทางทีวี ในญี่ปุ่น หลังจากการสร้างเป็นภาพยนตร์ฉายทางโรงภาพยนตร์ในญี่ปุ่นคือ อุลตร้าแมนคอสมอส ประเทศไทยเองก็มีการสร้าง ภาพยนตร์ชุดอุลตร้าแมนขึ้นเช่นกัน โดยลิขสิทธิ์ ที่บริษัทไชโย โปรดัคชั่นมีอยู่ ไทยสร้างอุลตร้าแมนตัวใหม่ชื่ออุลตร้าแมน มิลเลนเนียม ซึ่งได้จัดการแสดงโชว์ไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และกำลังดำเนินการสร้างเป็นภาพยนตร์ชุดฉายทางทีวีในไทย บรรดาชื่ออุลตร้าแมนที่ปรากฏข้างต้นนั้นเป็นส่วนหนึ่งของอุลตร้าแมนทั้งหมด ที่มีกว่าสามสิบคนเท่านั้น ยังมีอุลตร้าแมนอีกหลายคนที่ทางบริษัทซึบูราญ่าของญี่ปุ่นสร้างขึ้น มีไม่น้อยที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์หรือทางทีวีเป็นเฉพาะกิจ หรือในหนังสือการ์ตูนเท่านั้น เช่น อุลตร้าแมนคิง เจ้าพ่ออุลตร้า เจ้าแม่อุลตร้า อุลตร้าแมน อุลตร้าแมนโซฟี่ อุลตร้าแมน ยูม่า อุลตร้าแมนเมรอส อุลตร้าแมนไนซ์ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม บรรดาอุลตร้าแมนที่ปรากฏตัวในปฏิบัติการต่อเนื่องทางทีวีทั้งหมดที่ญี่ปุ่น สร้างขึ้นนั้น มีหลายเรื่องที่ไม่ได้ถูกนำมาฉายในไทย เช่น อุลตร้าแมนไดน่า อุลตร้าแมนไกอา ฯลฯ เพราะความขัดแย้งในปัญหาลิขสิทธิ์ที่ยังไม่ลงตัว ระหว่าง บริษัทซึบุราญ่า ของญี่ปุ่น กับคุณสมโพธิ แสงเดือนฉาย เจ้าของบริษัทไชโย โปรดัคชั่น ซึ่งเป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์ อุลตร้าแมนทั่วโลก ยกเว้นในญี่ปุ่น

ประวัติเบนเทน

Posted: กันยายน 10, 2011 in Uncategorized

ประวัติ

ในภาพยนตร์ Secret of the Omitrix ได้เปิดเผยว่าออมนิทริกซ์ถูกสร้างโดยแอซมัท (ชนเผ่ากัลวิ่น) โดยมีผู้ช่วยชื่อไมแอกซ์ (ชนเผ่า Chimera Sui Genesis (บ้านเกิดของวิวแก็กซ์)) มีเอเลี่ยนในออมนิทริกซ์มากว่า 1 ล้านตัว แต่มีอยู่ 1,000,903 ตัว ที่พร้อมใช้ โดยจุดประสงค์ในการสร้างก็เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นเอเลี่ยนพันธุ์อื่นๆ เพื่อใช้เชื่อมความสัมพันธุ์กันระหว่างเอเลี่ยนแต่ละพันธุ์ ในตอน War of the worlds:Part 1 ในเบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน แอสมัสได้กล่าวไว้ ที่จริงออมนิทริกซ์เปรียบเสมือนเรือโนอาร์ และออมนิทริกซ์ถูกสร้างขึ้นเพื่อไม่ให้เผ่าพันธุ์ต่างๆในจักรวาลสูญพันธุ์ไปเพราะไฮบรีด

ลักษณะเฉพาะ

ออมิทริกซ์มีลักษณะทรงกระบอกคล้ายๆกับกำไลข้อมือ มีหน้าปัดที่มีสัญลักษณ์คล้ายๆกับนาฬิกาทรายอยู่ตรงกลาง และมีปุ่มรอบๆอยู่สี่ปุ่ม เมื่อถูกใช้งานสัญลักษณ์ตรงกลางจะถูกเปลี่ยนเป็นสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดและจะมีเงาของเอเลี่ยนอยู่ข้างใน โดยเมื่อถูกใช้งานโดยกดปุ่มทั้งสองข้าง หน้าปัดจะถูกยกขึ้นและผู้ใช้สามารถหมุนเพื่อเลือกเอเลี่ยนได้ตามต้องการ และเมื่อกดมันกลับคืนก็จะสามารถเปลี่ยนผู้ใช้เป็นเอเลี่ยนตัวนั้นๆได้ ปุ่มสี่ปุ่มที่อยู่รอบๆหน้าปัดทำหน้าที่เป็นตัวใส่รหัส และเมื่อใส่ถูกต้องก็จะสามารถปลดล๊อคเอเลี่ยนพันธุ์ใหม่ออกมา ออมิทริกซ์มีสีการทำงานห้าสี คือ สีเขียวหมายถึงพร้อมใช้งาน สีแดงหมายถึงอยู่ในระหว่างชาร์จพลังงาน สีเหลืองหมายถึงกำลังเพิ่มเอเลี่ยนพันธ์ใหม่เข้าไปในออมิทริกซ์ สีส้มหมายถึงออมนิทริกซ์เปิดระบบทำลายตนเอง (ตอนแรกจะปรากฏสีส้มบริเวณขอบของหน้าปัดรูปนาฬิกาทรายก่อน แล้วจะค่อยๆเพิ่มมาเรื่อยๆตามเวลา เวลาจะเพิ่มเร็วขึ้นเมื่อมีการแปลงร่าง) และสีน้ำเงินหมายถึงออมิทริกซ์กำลังแปลงสภาพ (จะปรากฏขึ้นในภาคเบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน)

ประวัติของมิกกี้

Posted: กันยายน 10, 2011 in Uncategorized

ประวัติมิกกี้เมาส์

เรื่องราวของมิคกี้ เม้าส์เริ่มขึ้นในปี 1928 โดย
“วอลเตอร์ อีลิส ดิสนีย์” ( วอลล์ ดิสนีย์)ภายหลังจากที่มีการตั้งบริษัท วอลล์ ดิสนีย์ ร่วมกันกับ’รอย’
นักผลิตการ์ตูนซึ่งเป็นน้องชายของเขา ครั้งแรกที่พวกเขาสร้างตัวการ์ตูนตัวนี้ขึ้นมานั้น พวกเขาเรียกมันว่า
“มอร์ติเมอร์ เมาส์” แต่ในเวลาต่อมาหลังจากที่ภรรยาของเขาแนะนำว่า ควรจะเปลี่ยนชื่อตัวการ์ตูนนี้ใหม่
เขาจึงเปลี่ยนชื่อตัวการ์ตูนเป็น “มิคกี้ เมาส์” (ในอิตาลีจะเรียกว่า “โทโพลิโน่”) มิคกี้เป็นหนูซึ่งมีหูกลมใหญ่
สีดำและมีแขนขาที่เล็กมากโดยมิคกี้จะใส่กางเกงขาสั้นสีแดงซึ่งมีกระดุมสีเหลือง 2 เม็ดติดอยู่บนกางเกง  
รองเท้าและถุงมือก็จะเป็นสีเหลืองด้วย มิคกี้ เมาส์ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกที่โรงภาพยนตร์ในนิวยอร์ค และ
การ์ตูนเรื่องนี้มีจุดเด่นที่เพลงประกอบที่ไพเราะ ภาพและฉากสวยงาม หลังจากนั้นดิสนีย์ก็ได้ผลิตการ์ตูนขึ้น
อีกเรื่องคือเรื่องลูกหมูสามตัว โดยซิลลี่ ซิมโฟนี่ การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับรางวัลออสก้าร์ในปี 1933 ถึง 31 รางวัล
              
  มิคกี้ เมาส์เปิดตัวในโลกของการ์ตูนครั้งแรกในปี 1930 เป็นตัวการ์ตูนซึ่งมี
บุคลิกที่มีความอดทน อดกลั้น มีความฉลาดหลักแหลม มองโลกในแง่ดี และกล้าหาญ ที่สำคัญมิคกี้มีสัญชาตญาณ
พิเศษในเรื่องของการสืบสวนสอบสวน และด้วยบุคลิกที่โดดเด่นในแง่นี้เองทำให้ตัวการ์ตูนตัวนี้ชอบที่จะใช้เหตุผล
เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้กำลังเข้าสู้ เช่นการชนะศัตรูที่มีร่างกายที่แข็งแรงกว่ามิคกี้มาก  

การผจญภัยของมิคกี้ เมาส์มีมากมายหลายตอน ได้แก่ มิคกี้ เม้าส์กับความลี้ลับของจุดดำ, มิคกี้ เมาส์
ราชาแห่งหนู, มิคกี้ เมาส์นักหนังสือพิมพ์, มิคกี้ เมาส์และความลี้ลับของชายในสายหมอก, มิคกี้ เมาส์กับปีศาจกอริลล่า,  
มิคกี้ เมาส์ยุคหิน ฯลฯ สำหรับเรื่องการแต่งตัวที่ดูทันสมัยของมิคกี้ เมาส์ในบางครั้งก็จะสวมใส่กางเกงขายาวสีแดง
เสื้อถักรัดรูปสีน้ำเงินซึ่งมีแขนเสื้อสั้น ถุงเท้าและถุงมือเป็นสีเหลืองเข้าชุดกัน ในปี 1940 มิคกี้ เมาส์ ได้รับขนานนามจาก
นักวิจารณ์ ภาพยนตร์ว่าเป็นการ์ตูนที่ได้รับความชื่นชอบมากที่สุดใน ยุคนั้น เพราะเป็นการ์ตูนที่เต็มไปด้วยจินตนาการ

ตัวการ์ตูนอีกตัวหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นเพื่อนสนิทของมิคกี้ก็คือ กุฟฟี่ ซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด
ซึ่งมักจะติดตามมิคกี้ไปทุกๆที่ ในอเมริกาเรียกกุฟฟี่ว่า กูฟี่ ซึ่งชื่อนี้มีความหมายว่าตัว ตลก และความสนุกสนาน จากชื่อนี้
เองสามารถเดาถึงบุคลิกลักษณะนิสัยของกุฟฟี่ได้ ในความเป็นจริงแล้วกุฟฟี่จะมีบุคลิกที่ตรงกันข้ามกับมิคกี้ ซึ่งกุฟฟี่จะคอย
กวนใจมิคกี้บ่อยครั้ง ตามประวัติแล้วกุฟฟี่จะคอยสร้างความครื้นเครงให้ผู้อื่น โดยการทำฟองสบู่ ในขณะที่มิคกี้รู้สึกท้อแท้ช่วย
ให้มิคกี้คลายความเศร้าได้ กุฟฟี่ถูกสร้างขึ้นปี 1932 ในการ์ตูนเรื่องมิคกี้ เมาส์ กุฟฟี่จะแต่งกายด้วยชุดสีแดงคล้ายกับชุดนอน  
และสวมเสื้อคลุมไม่มีแขนสีฟ้า กุฟฟี่จะเปลี่ยนเป็น ซุปเปอร์กูฟ หลังจากที่ได้รับประทานถั่วชนิดพิเศษเข้าไป  
ซึ่งถั่วดังกล่าวจะปลูกอยู่ในสวนภายในถ้วยใบหนึ่ง เมื่อทานถั่วเข้าไปแล้วกุฟฟี่จะมีพลังเหมือนกับซุปเปอร์แมน  
มีกำลังมหาศาล สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว
              
  มินนี่ เม้าส์ ซึ่งเป็นคู่หมั้นของมิคกี้ ถือได้ว่าเป็นตัวแทนของความเป็นผู้หญิง ตัวการ์ตูนนี้เกิด
ขึ้นมาจากความเป็นผู้หญิง ซึ่งมีอยู่ในทุกสังคมและความคิดของมินนี่ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามทัศนคติ มินนี่มีบุคลิกที่อ่อน
หวานอ่อนไหว ชอบการต่อสู้และมีอารมณ์ที่ค่อนข้างหุนหันพลันแล่น มินนี่จะเป็นตัวแทนของเพศหญิง ฟอยด์ ก๊อตเฟรตสัน
เป็นนักวาดการ์ตูนที่สร้างมินนี่ เม้าส์ขึ้นมา มินนี่เป็นตัวการ์ตูนตัวหนึ่งในการ์ตูนเรื่องมิคกี้ เมาส์ โดยส่วนใหญ่แล้วมินนี่จะ
ปรากฏตัวในห้องครัว ขณะที่ทำเค้กกับคาร์ราเบลล่า ซึ่งเป็นเพื่อนของมินนี่ การเป็นคู่หมั้นของมิคกี้และมินนี่เป็นตัวแทน
ของความผูกพัน ซึ่งเชื่อมทั้งสองเข้าไว้ด้วยกันชั่วนิรันดร์  

ถึงแม้ว่ามินนี่ และมิคกี้จะไม่มีลูกด้วยกันแต่ในประวัติของมิคกี้
นั้นมักจะมีหนูเด็กๆ 2 ตัวปรากฏอยู่เสมอๆ หนูทั้งสองตัวนั้นชื่อว่า ทิป และแท๊ปซึ่งเป็นหลานของมิคกี้ ทิปและแท๊ปปรากฎตัวเป็น
ครั้งแรกในปี 1932 ในตอนที่ชื่อว่า”หลานของมิคกี้” ซึ่งผู้ที่สร้างสรรตัวละครนี้ขึ้นมาคือ ฟอยด์ ก๊อตเฟรตสัน ในปี 1934 ในตอน  
“รถบดถนนของมิคกี้” ทิปและแท๊ปจะมีลักษณะทางกายภาพคล้ายคลึงกับมิคกี้ เม้าส์ซึ่งเป็นลุง โดยที่ทิปและแท๊ปจะใส่เสื้อคลุมขน
สัตว์ที่เป็นชุดยาวมีสายรัดและสวมหมวกของกะลาสี ทิปและแท๊ปเป็นหนูที่ฉลาด ทิปและแท๊ปจะต่อต้านหลานของมินนี่ ซึ่งมีชื่อ
ว่าเมโลดี้

การผจญภัยของทิปและแท๊ป เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาพบกับพลูโตซึ่งเป็นสุนัขของมิคกี้ พลูโต เป็นสุนัขที่
ซื่อสัตย์ อ่อนไหว มีความอยากรู้อยากเห็นสูง พลูโตปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในการ์ตูนเรื่องมิคกี้ เม้าส์ในปี 1930 ในความ
เป็นจริงแล้วสุนัขก็ย่อมที่จะมีพฤติกรรมเหมือนสุนัข ในขณะที่กุฟฟี่และมิคกี้รวมถึงตัวการ์ตูนตัวอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะเป็น
สัตว์แต่ก็สามารถพูดได้อย่างมนุษย์ปกติทั่วๆไป

ก้านกล้วย

Posted: กันยายน 10, 2011 in Uncategorized

ทอมandเจอรี่

Posted: กันยายน 6, 2011 in Uncategorized

เบนเทน

Posted: กันยายน 6, 2011 in Uncategorized

มิกกี้

Posted: กันยายน 6, 2011 in Uncategorized

อุลตร้าเเมน

Posted: กันยายน 6, 2011 in Uncategorized